, , ,

จุฬาฯ จับมือ NIA ปั้น “ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย” สร้างเวทีบ่มเพาะนวัตกรรมและธุรกิจ Startup จากงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์

Chayissara Areeyasombat Avatar
Spread the love

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Innovation Hub) ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย (Chula–NIA Grant)” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของอาจารย์และนิสิตในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมให้สามารถต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ เชิงนโยบาย และเชิงสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม

โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อขยายผลองค์ความรู้และผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยไปสู่การประยุกต์ใช้ในระดับ นโยบายสาธารณะ นวัตกรรมภาครัฐ และธุรกิจเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักวิจัยและนิสิตได้เข้าถึงข้อมูล ทรัพยากร และเครือข่ายสนับสนุน เพื่อพัฒนาผลงานนวัตกรรมให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคม และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุฬาฯให้ความสำคัญกับการพัฒนานิสิตผ่านการ ลงมือปฏิบัติจริง ภายใต้การให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่เป็น “พี่เลี้ยงและผู้นำโครงการ” (Principal Investigator: PI) เพื่อบ่มเพาะทั้ง ทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม การบริหารจัดการโครงการ และการต่อยอดสู่การจัดตั้งธุรกิจอย่างยั่งยืน และในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน CU Innovation Hub ทำหน้าที่เป็นทั้ง “กลไกบ่มเพาะนวัตกรรม” และ “พื้นที่เรียนรู้จริง” ที่เปิดโอกาสให้คณาจารย์และนิสิตได้เรียนรู้ครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาแนวคิดเชิงนวัตกรรม การเขียนข้อเสนอโครงการ การวางแผนธุรกิจ การบริหารงบประมาณ ไปจนถึงการจัดตั้งบริษัท Startup หรือ Spin-off ที่พร้อมนำเสนอผลงานต่อแหล่งทุนและตลาดจริง

สำหรับการดำเนินงานในรอบที่ 1 โครงการได้เปิดรับสมัครและจัดงานปฐมนิเทศนิสิตที่ผ่านการคัดเลือก เมื่อวันที่ 16–17 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้การนำของศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ให้คำแนะนำแนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และรองศาสตราจารย์ ดร. สุกัญญา สมไพบูลย์ รองอธิการบดีด้านกิจการนิสิต ให้การแนะแนว การพัฒนา Soft Skill – Hard Skill – Global Citizenship ซึ่งบรรยากาศในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเต็มไปด้วยพลัง ความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจของนิสิตรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมผ่านนวัตกรรม

ด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า  NIA ในฐานะหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม จะนำกลไกและเทคนิคการบ่มเพาะผู้ประกอบการมาถ่ายทอดร่วมกับจุฬาฯ ทั้งในด้านการให้ความรู้ แหล่งเงินทุน การเข้าถึงห้องปฏิบัติการ และการใช้ทรัพยากรในมหาวิทยาลัย โดยเชื่อว่าการเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการนวัตกรรมตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีความมุ่งหวังสำคัญคือการสร้าง “สารตั้งต้น” และการสร้าง “Entrepreneurial Spirit” ให้กับเยาวชน ภายใต้ นิยาม “นวัตกรใหม่” คู่คุณธรรมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่ NIA เน้นย้ำ

โดย โครงการนี้มุ่งเน้นการ “ประดิษฐ์ปัญญา” ไม่ใช่แค่สร้างปัญญาประดิษฐ์ ให้กับเยาวชน โดยนิยามของ “นวัตกรใหม่” คือผู้ที่มีไอเดียที่ไม่เหมือนเดิม และมองภาพนวัตกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจะต้องสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนและสังคม ควบคู่ไปกับจริยธรรม มโนธรรม และการมองเรื่องความยั่งยืนของตัวนวัตกรรมเอง และโครงการนี้ถือเป็น “Open Innovation” และเป็นโครงการนำร่องที่ร่วมมือกับจุฬาฯ ความสำเร็จของโครงการนี้จะนำไปสู่การขยายผลและร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่มีความสนใจต่อไปในอนาคต

ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร. พรอนงค์ อร่ามวิทย์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จุดประสงค์หลักของโครงการคือการผลิตนวัตกรรมร่วมกัน เพื่อมุ่งเน้นการสร้าง “นวัตกร” ตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย โครงการนี้จึงเป็นต้นแบบในการหล่อหลอมและพัฒนาเยาวชนให้เป็น Young Entrepreneur และ Young Innovator ที่ดีสำหรับอนาคตของประเทศไทย โดยถือเป็นความร่วมมือครั้งแรกที่จะได้เห็นการสร้างนวัตกรรมระดับชาติเริ่มต้นจากเยาวชนในระดับนิสิตนักศึกษา ซึ่งรุ่นแรกได้เปิดรับและคัดเลือกเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยมีผู้ประกอบการที่ได้รับทุนสนับสนุนรวม 10 บริษัท ซึ่งประกอบด้วยนิสิตประมาณ 30 ท่าน และอาจารย์ที่ปรึกษาอีก 10 ท่าน ตัวแทนนิสิตที่ร่วมโครงการ อาทิ นายรัชชานนท์ ถนัดสร้าง นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 4 ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนในการนำไอเดียมาต่อยอดเป็นธุรกิจนวัตกรรม คาดว่าจะสามารถจบหลักสูตรได้ประมาณเดือนธันวาคม และสำหรับรุ่นที่ 2 นี้ เตรียมเปิดรับสมัครตั้งแต่ เดือนมกราคมปี พ.ศ. 2569 และมีแผนจะเพิ่มจำนวนผู้รับทุนเป็นประมาณ 20 บริษัท ในปีถัดไป โดยคุณสมบัติและการคัดเลือกเปิดรับนิสิตนักศึกษาทุกคนที่มีความสนใจ ไม่ว่าจะมีนวัตกรรมหรือมีเพียงแค่ “แนวคิด” โดยจะมีการนำเสนอ (Pitching) ต่อคณะกรรมการเพื่อคัดเลือกจากไอเดียที่มีความเป็นไปได้ สามารถตอบสนองความต้องการของสังคม และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น

รศ.ดร.สุกัญญา สมไพบูลย์ รองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  กล่าวว่า โครงการความร่วมมือนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้าง “นวัตกร” ที่จะสามารถสร้าง “นวัตกรรมระดับโลก” ได้ โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการส่งเสริมให้นิสิตของจุฬาฯสามารถเริ่มทำงานวิจัยและพัฒนาระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอเรียนจบ ซึ่งข้อดีคือมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยช่วยเหลือดูแลตลอดกระบวนการ และผลงานของทีมนิสิตทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้ารอบมานั้นไม่เพียงแต่เป็นผลงานระดับชาติ แต่ยังอยู่ในระดับนานาชาติและระดับโลก ด้วย

สำหรับในด้านการสนับสนุน โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยแต่ละทีมจะได้รับทุนสนับสนุนรวม ทีมละ 1,000,000 บาท จากทั้งสองฝ่ายในสัดส่วนเท่ากัน สำหรับสาขาของนวัตกรรมในช่วงเริ่มต้นเน้นไปที่งานวิจัยทางด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (Pure Science) และสุขภาพ แต่ในอนาคตมีความมุ่งหวังว่าจะขยายไปสู่ด้านมนุษย์และสังคมด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตจากทุกศาสตร์สามารถเข้ามามีบทบาทในการสร้างนวัตกรรมเชิงสังคมได้เช่นกัน

นายรัชชานนท์ ถนัดสร้าง นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ และเป็นตัวแทนจากทีม “Eyequila” ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ได้รับคัดเลือกใน โครงการผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัย (Chula–NIA Grant) ได้กล่าวถึงแพลตฟอร์มว่า “Eyequila” คือ เกมออกกำลังกายสายตาเพื่อสุขภาพ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันภาวะสายตาสั้น ในเด็กและผู้ใหญ่ และช่วยลดอาการตาล้า (Digital Eye Strain) ซึ่งเกิดจากการใช้จอเป็นเวลานาน และในโอกาสนี้ ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งที่ทีมได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการนี้ ซึ่งโครงการนี้มีประโยชน์อย่างมากที่ทางมหาวิทยาลัยร่วมกับ NIA ให้การสนับสนุนนักศึกษาที่มีความสนใจด้านสตาร์ทอัพ โดยให้ทั้งเงินทุน (Funding), การสร้างเครือข่าย (Connection) และความช่วยเหลือในการพัฒนาจากแนวคิด (Idea) ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ (Product) ที่สามารถสร้างผลกระทบ (Impact) ต่อสังคมได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ทีมงาน ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะหยุดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่ตั้งใจที่จะ ขยายแพลตฟอร์ม “Eyequila” ออกไปในระดับโลก


Spread the love
BusinessTH Avatar

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Author Profile

BUSINESS GUIDE

78/172 Itraville Village, Intersection 4, Soi 19, Bang Chan Subdistrict, Khlong Sam Wa District, Bangkok 10510 Tel. 065-39444620 (Pim)

Latest posts
Search
Tags