จากกรณีรถไฟขบวน 201 (กรุงเทพมหานคร-พิษณุโลก) มุ่งหน้าไปพิษณุโลก เฉี่ยวชนรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บม 5669 พิจิตร บริเวณถนนตัดทางรถไฟ เยื้อง อบต.ปากทาง หมู่บ้านราชช้างขวัญ ตำบลปากทาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุได้ตรวจสอบข้อมูลการทำประกันภัย พร้อมทั้งติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ได้ลงพื้นที่ทันทีและจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รถกระบะ หมายเลขทะเบียน บม 5669 พิจิตร จัดทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 กรมธรรม์ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บค่ารักษาสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคนและกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน
นอกจากนี้มีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 2) ไว้กับบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มความคุ้มครองวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 500,000 บาทต่อคน 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 1,000,000 บาทต่อครั้ง รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ 290,000 บาท สำหรับความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ร.ย. 01) ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 2 คน ๆ ละ 100,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล (ร.ย. 02) จำนวน 100,000 บาทต่อคน ประกันตัว ผู้ขับขี่ (ร.ย. 03) 300,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เบื้องต้นในกรณีที่รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บม 5669 พิจิตร (ถ้าเป็นฝ่ายผิด) ทายาทโดยธรรมของผู้โดยสารรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 500,000 บาท จากการทำประกันภัย พ.ร.บ. และประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 2 รายละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย) และค่าสินไหมทดแทนความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ จำนวน 200,000 บาท โดยเฉลี่ยจ่ายทั้ง 5 ราย รายละ 40,000 บาท และจากกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา กรณีเสียชีวิต (อบ.2) จากอุบัติเหตุทั่วไป จำนวน 1 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท จากบริษัท สยามสไมล์ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย สำนักงาน คปภ.จังหวัดพิจิตรได้ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอำนวยความสะดวกและรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลพิจิตรโดยตรง โดยผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาตามสิทธิแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตรได้ประสานงานกับบริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อรวบรวมเอกสารและอำนวยความสะดวกเพื่อดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็วแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอทายาทโดยธรรมจัดเตรียมเอกสารให้แก่บริษัทประกันภัย นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างบูรณาการร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ประสบภัยหรือผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีการทำประกันภัยเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ อีกหรือไม่ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยก็จะได้รับสิทธิตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ทุกประการ
ใส่ความเห็น