บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH เผยผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567
ปิดด้วยรายได้จากเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินงานของ บริษัท
ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นธุรกิจแกนหลัก ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,022 ล้านบาท
หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่ 1.72 บาท
ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ TIPH
ในปีนี้ โดยมีกำไรจากการรับประกันภัยถึง 2,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143 ล้านบาท หรือ 5.7%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจะเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก
ทั้งการแข่งขันที่เข้มข้น การชะลอตัวของการเติบโตในตลาดประกันวินาศภัย และสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่
TIPH ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้อย่างมั่นคงภายใต้การบริหารจัดการที่รัดกุมและยืดหยุ่น
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP
เน้นกลยุทธ์การรับประกันภัยที่คัดสรรและกำหนดอัตราเบี้ยประกันตามความเสี่ยง (Risk-Based Pricing)
เพื่อให้ประสบการณ์ด้านการประกันภัยแก่ลูกค้าเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี TIP
มีกำไรจากการรับประกันภัย 2,283 ล้านบาท คงความแข็งแกร่งและต่อยอดการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัท ทิพย ไอบี จำกัด หนึ่งในบริษัทเรือธงของ TIPH ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจประกันภัย
ได้เข้าลงทุนในบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยวินาศภัยดิจิทัลเต็มรูปแบบ
โดยมุ่งตอบสนองกลุ่มลูกค้า Digital Native และ Digital Adaptive มีเบี้ยประกันภัยรับรวมรอบ 9 เดือนของปี 2567
เพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน และมีกำไรจากการรับประกันภัยเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งเพิ่มขึ้น 21%
จากไตรมาสก่อนเช่นเดียวกันขณะที่บริษัท ทิพย ไอเอสบี จำกัด
มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนและเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศด้าน Insurance Ecosystem
ให้กับกลุ่มบริษัท ได้ลงทุนในบริษัท ดี พี เซอร์เวย์ แอนด์ ลอว์ จำกัด บริษัท อะมิตี้ อินชัวร์รันซ์ โบรคเกอร์ จำกัด
และบริษัท ศูนย์ฝึกอบรมทิพย จำกัด มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 18% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 39%
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งใกล้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high) ให้กับกลุ่มทิพย ไอเอสบี
บริษัท ทิพย เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ที่มุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต
ได้ร่วมลงทุนในบริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด โดยมีกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แซงหน้ากำไรสุทธิทั้งปีของปี
2566 และได้ขยายการลงทุนไปยังบริษัท เงินดีดี จำกัด เพื่อเสริมบริการสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน
ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างท่วมท้น โดยแอปพลิเคชัน Good Money by GSB ได้รับการดาวน์โหลดกว่า
200,000 ครั้ง หลังเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
การเติบโตที่ต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจที่ TIPH เข้าลงทุน
สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการอย่างแข็งแกร่งและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน
TIPH เชื่อมั่นว่าการพัฒนาอย่างมั่นคงนี้จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่นักลงทุนต่อไป
ใส่ความเห็น