GAC AION Thailand ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลงทุนระยะยาวในประเทศไทยและการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด ประกาศความสำเร็จในการจัดงาน “GAC Business Matching Event” ณ ห้องประชุมสมเจตน์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สำนักงานมาบตาพุด จังหวัดระยอง.
กิจกรรมครั้งสำคัญนี้ จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง GAC AION Thailand, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสรรหาและเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สัญชาติไทยที่มีศักยภาพ เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลกของ GAC AION โดยตรง โดยมีบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ผ่านการคัดเลือกและได้รับเชิญเข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 27 บริษัท
Mr. Andrew Wang ประธานกรรมการบริหาร GAC AION Thailand ได้กล่าวต้อนรับและนำเสนอวิสัยทัศน์ของ GAC AION Thailand ภายใต้กลยุทธ์ “ONE GAC” ว่า “GAC AION ไม่ได้มองประเทศไทยเป็นเพียงตลาด แต่คือบ้านหลังที่สองและเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของเราในภูมิภาค เราได้วางตำแหน่งให้ประเทศไทยเป็น ‘สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก’ และ ‘ฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาระดับโลก’ โรงงานของเราที่จังหวัดระยอง ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจน”
“ปัจจุบัน เรามีความภูมิใจที่สามารถสร้างอัตราส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Localization) ได้ถึง 51% และเราจะไม่หยุดเพียงเท่านี้” Mr. Andrew Wang กล่าวเสริม “งาน Business Matching ในวันนี้ คือคำยืนยันในคำมั่นสัญญาของเรา ในการลงทุน เพื่อสร้างงาน เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี และเพื่อเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายการผลิตแบบ CKD ภายในปี 2570 และท้าทายเป้าหมายยอดขายในประเทศ 50,000 คัน และส่งออก 50,000 คัน ภายในปี 2573 ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ‘พาร์ทเนอร์ซัพพลายเชนในประเทศ’ คือหัวใจที่สำคัญที่สุด”
นางสาวพัชรดา นวกะวงษ์การ, ผู้อำนวยการกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย (BOI) กล่าวเปิดงานในนามของ BOI ว่า “ภารกิจสำคัญของ BOI นอกเหนือจากการส่งเสริมการลงทุน คือการสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นความต่อเนื่องจากงาน AION SOURCING DAY เมื่อปลายปี 2567 และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ GAC AION ที่จะพัฒนา Supply Chain ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง BOI ยินดีที่ได้เป็นสะพานเชื่อมโยง GAC AION กับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพใน 3 กลุ่มชิ้นส่วนเป้าหมายหลัก ได้แก่ Interior & Exterior, Body & Chassis และ Electrical & Safety เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรม EV ของไทยอย่างยั่งยืน”

นางสาวนลินี กาญจนามัย, รองผู้ว่าการ (บริหาร) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวต้อนรับในนามของ กนอ. ว่า “กนอ. ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ GAC Group และผู้ประกอบการทุกท่านสู่พื้นที่มาบตาพุด การที่ GAC AION ซึ่งเป็นผู้ผลิต EV ชั้นนำระดับโลก เลือกใช้ฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง และยังจัดกิจกรรมเชื่อมโยงซัพพลายเชนในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจแบบครบวงจร และช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างผู้ใช้และผู้ผลิตชิ้นส่วนโดยตรง”
Miss Yang Wei ผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อจากสำนักงานใหญ่ GAC Group ได้นำเสนอนโยบายการจัดซื้อของ GAC Group โดยเน้นย้ำว่า “ปรัชญาการจัดซื้อของ GAC คือ ‘ประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และการสร้างสรรค์ร่วมกัน’ (Efficiency, Transparency, and Co-creation) เราไม่ได้มองหาแค่ ‘ผู้ขาย’ แต่เรามองหา ‘พาร์ทเนอร์’ ที่จะวางแผนและเติบโตไปด้วยกันในระดับโลก ปัจจุบัน GAC มีซัพพลายเออร์ไทยที่ผ่านกระบวนการและเข้าระบบแล้ว 24 ราย และเรากำลังขยายการจัดซื้อในประเทศ จากชิ้นส่วนทั่วไปที่ไทยมีความได้เปรียบ ไปสู่ชิ้นส่วนเทคโนโลยีหลักของ EV เช่น โครงสร้างแบตเตอรี่ (Battery Housings) และระบบ BMS เราสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ตั้งโรงงานหรือคลังสินค้าใกล้กับฐานการผลิตของเรา เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพสูงสุด”


ด้าน Mr. He Liang ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ ได้นำเสนอมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดว่า “คุณภาพคือหัวใจของ GAC ในยุคยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (ICV) เรามี 4 เสาหลักในการควบคุมคุณภาพ EV ที่เข้มงวด ได้แก่ 1. ความปลอดภัย (Safety) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ 2. คุณภาพซอฟต์แวร์ (Software Quality) ที่มีบทบาทมากขึ้น 3. ความทนทานและความน่าเชื่อถือ (Durability and Reliability – QDR) และ 4. ประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience) เช่น เสียง (NVH) และกลิ่นในห้องโดยสาร”
“เราใช้ระบบ QA-Net ในการควบคุมคุณภาพซัพพลายเออร์ ซึ่งครอบคลุมไปถึง Tier-2 และใช้หลักการ ‘Stop, Call, Wait’ อย่างจริงจัง คือต้องหยุดทันทีเมื่อเจอปัญหา ห้ามปล่อยให้ปัญหาหลุดไปยังกระบวนการถัดไป GAC AION ได้เปลี่ยนวิธีคิดจากมุมมองวิศวกรเป็นมุมมองผู้ใช้งาน (User-oriented) และเราต้องการพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจในปรัชญานี้ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”
การจัดงาน GAC Business Matching Event ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการตอกย้ำถึงความก้าวหน้าของแผนงาน “ONE GAC” ในประเทศไทย แต่ยังเป็นการส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์สะอาดของไทยอย่างเป็นรูปธรรม GAC AION พร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรซัพพลายเออร์ชาวไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็น “ผู้สร้างสรรค์คุณค่าแห่งการเดินทางที่ดียิ่งขึ้น” (Value Creator for a Better Mobile Life) ให้กับผู้บริโภคในไทยและทั่วโลก
ผู้ที่สนใจรถยนต์พลังงานใหม่จาก GAC AION Thailand สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์
www.aionauto.com/th-th/
และลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้ที่ www.aionauto.com/th-th/test-drive/AION%20V
เกี่ยวกับ GAC Group
GAC Group เป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกที่มุ่งมั่นส่งมอบคุณค่าให้กับอุตสาหกรรม ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง นวัตกรรมล้ำสมัย และบริการที่ยอดเยี่ยม โดยมีเป้าหมายในการก้าวสู่ระดับแนวหน้าของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกที่น่าเชื่อถือในระดับโลก โดย GAC Group ได้ก้าวสู่ตลาดรถยนต์โลกอย่างเป็นทางการในปี 2013 และเติบโตเข้าสู่ตลาดอย่างมั่นคง ด้วยการยึดมั่นในคุณค่าแห่ง “คุณภาพระดับแนวหน้าและเทคโนโลยีล้ำสมัย” พร้อมหลักการ “ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง บริการจากภายใน” เพื่อสร้างแบรนด์ที่เชื่อถือในเวทีสากล และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานทุกมิติ
ปัจจุบัน GAC Group มีสำนักงานใหญ่จำนวน 5 แห่ง ครอบคลุมกว่า 74 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ประเทศอเมริกา, ยุโรป, เอเชียแปซิฟิก, กลุ่มประเทศ CIS และอียิปต์ เสริมศักยภาพการขยายตัวในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขับเคลื่อนนวัตกรรมที่โดดเด่นและวัฒนธรรมขององค์กรที่แข็งแกร่ง
ด้วยความสำเร็จที่โดดเด่น GAC Group ได้รับการจัดอันดับใน Fortune Global 500 ต่อเนื่องถึง 12 ปี โดยในปี 2024 อยู่ที่อันดับ 181 มีบุคลากรระดับแนวหน้ากว่า 100,000 คน ครอบคลุม 15 ประเทศทั่วโลก รวมถึงทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) กว่า 6,000 คนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
GAC Group มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Centers) ในจีน สหรัฐอเมริกา และอีกหลากหลายประเทศ พร้อมครอบครองเทคโนโลยีด้านสิทธิบัตรหรือสิทธิการอนุญาตกว่า 18,600 รายการ และผลงานการพัฒนาอัจฉริยะกว่า 7,500 รายการ ครอบคลุมเทคโนโลยีและนวัตกรรมขององค์กร
ด้านศักยภาพทางผลิต GAC Group มียอดขายกว่า 2.5 ล้านคันในปี 2023 ติดอันดับ 4 ของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน โดยปัจจุบันมีแบรนด์รถยนต์ในเครือที่ยืนหยัดด้วย 3 แบรนด์ได้แก่ AION, HYPTEC และ GAC Motor นอกจากนี้ GAC Group ยังเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับแบรนด์ชั้นนำในผู้ผลิตชั้นนำ ได้แก่ HONDA และ TOYOTA ผ่านบริษัทระหว่าง GAC HONDA และ GAC TOYOTA
ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ GAC Group ใช้ Big Data ขับเคลื่อนโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ และระบบ AI ผ่านการทดสอบที่มีความแม่นยำสูงถึง 95% พร้อมยกระดับขอบเขตการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การผลิต พัฒนา เทคโนโลยี ไปจนถึงการให้บริการระดับโลก
GAC Group ไม่เพียงแค่เป็นผู้นำด้านยานยนต์ แต่ยังเน้นย้ำถึงการดำเนินธุรกิจด้วยจริยธรรม ความโปร่งใส และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความพึงพอใจมากกว่า เพื่อส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก










ใส่ความเห็น